Last updated: 4 ธ.ค. 2562 | 3098 จำนวนผู้เข้าชม |
เมื่อลูกหลาน จำเป็นจะต้องดูแลผู้สูงอายุ หรือ พ่อแม่ที่ป่วยติดเตียงด้วยตัวเอง แม้พร้อมดูแลด้วยความรัก ความห่วงใย หลายครั้งก็ยังประสบกับปัญหาในเรื่องของเวลา บางคนต้องทำงาน บางคนต้องออกจากงานเพื่อมาดูแลเต็มเวลา บางคนไม่มีเวลา ก็ต้องจ้างคนมาดูแลเป็นพิเศษ แต่ก็ยังไม่ได้ตอบโจทย์ทั้งหมด เพราะบางทีข้อจำกัดในเรื่องการดูแลผู้ป่วยหลายๆอย่าง อาจไม่ถูกปฏิบัติได้อย่างถูกต้องตามมาตรฐานโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้สูงอายุที่ป่วยติดเตียง ฟื้นฟูอาการได้ช้าลง การใช้บริการ Nursing Home หรือ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ จึงกลายเป็นทางเลือกใหม่ ที่ตอบโจทย์ทุกปัญหาของการดูแล ใส่ใจดุจญาติ และเชี่ยวชาญตามวิชาชีพแพทย์ พยาบาล
ในบทความนี้ เราจะมาเปรียบเทียบให้เห็นว่า การดูแลผู้ป่วยสูงอายุ มีการดูแลแบบไหนบ้าง และมีความแตกต่างกันอย่างไร เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจเลือกวิธีการดูแลที่เหมาะสมที่สุด เป็นทางออกให้กับทุกปัญหา และข้อจำกัดของลูกหลานด้วย
ประเภทของการดูแลผู้สูงอายุ
หากเรียงจากระดับการดูแลใส่ใจตามปกติแล้ว จะแบ่งการดูแลได้ 4 ประเภทดังนี้
ระดับที่ 1 ลูกหลานดูแลเองที่บ้าน ถือว่าเป็นการใส่ใจที่ดีที่สุด เพราะหากลูกหลานบ้านไหน ตัดสินใจที่จะดูแลเองแล้ว นั่นแปลว่า มีความพร้อมที่จะดูแล ห่วงใย ทุกอย่างได้ตลอดทั้งวัน ทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกดี อุ่นใจที่มีลูกหลานคอยดูแลเคียงข้าง แต่อาจมีข้อจำกัดในการปฏิบัติผู้ป่วยสูงอายุอย่างถูกวิธี
ระดับที่ 2 Nursing Home แม้จะเป็นทางเลือกใหม่ที่กำลังมีความนิยมมาก ระดับการดูแลใส่ใจถือว่า ทำได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้การดูแลของลูกหลาน เพราะศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ จะปฏิบัติต่อผู้สูงอายุดุจญาติ อ่อนโยน ใจเย็น ดูแลโดยแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ ผ่านการฝึกอบรมการดูแลผู้สูงอายุอย่างถูกวิธี ได้มาตรฐานดีเหมือนโรงพยาบาล
ระดับที่ 3 จ้างคนมาดูแล บางทีการจ้างคนช่วยดูแล ก็เป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับลูกหลานที่ไม่มีทางเลือกมาก เพราะต้องทำงาน หรือ อยู่ไกลไม่มีเวลาดูแลเอง แต่มาตรฐานของคนดูแลอาจไม่ได้เชี่ยวชาญเท่าไหร่นัก ดูแลตามหน้าที่ และอาจทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกเหงาได้
ระดับที่ 4 โรงพยาบาล โดยผู้สูงอายุ จะมีพยาบาลและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญดูแลอย่างใกล้ชิด ได้มาตรฐาน แต่จะไม่รู้สึกอบอุ่นเหมือนบ้าน อยู่โรงพยาบาลจะเหมือนผู้ป่วย กิจกรรมฟื้นฟูน้อย ความรู้สึกเหงาและเบื่อง่าย อีกทั้งการนอนอยู่โรงพยาบาลเวลานาน ก็มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง เพราะห้องพักและการดูแลพิเศษจะมีค่าใช้จ่ายทุกวัน
การดูแลปฏิบัติกับผู้ป่วยอย่างถูกต้องและปลอดภัย
ในด้านของการดูแลและปฏิบัติผู้ป่วยสูงอายุแต่ละแบบสามารถแยกความแตกต่างกันได้ ดังนี้
การใช้เวลาดูแลผู้สูงอายุ
การดูแลผู้ป่วยสูงอายุ จะต้องใช้เวลาในการดูแลใส่ใจตลอดเวลา แต่ละแบบจะมีการใช้ช่วงเวลาดูแลอย่างเต็มที่แตกต่างกัน ดังนี้
ความเหงาของผู้สูงอายุ
ในแง่ของความรู้สึกผู้สูงอายุ แน่นอนว่า วัยนี้ จะต้องการคนดูแลใกล้ชิดเป็นพิเศษ และชอบการทำกิจกรรม การได้พูดคุยกับผู้คน ซึ่งหากดูแลด้วยตัวเอง ผู้สูงอายุจะไม่เหงา และชอบให้ลูกหลานอยู่ด้วย แต่ถ้าเป็นการจ้างคนดูแล อันนี้อาจจะเหงาบ่อยๆ เพราะคนดูแลยังไม่ได้เข้าใจจิตใจ ความต้องการของผู้สูงอายุได้ดีเท่าลูกหลาน ส่วนโรงพยาบาล จะทำให้ผู้สูงอายุคิดถึงบ้าน สำหรับ Nursing Home มีข้อดีตรงที่ไม่ใช่การอยู่ถาวร แต่เหมือนให้ผู้ป่วยสูงอายุ มาพักฟื้นชั่วคราว แต่ให้ความรู้สึกเหมือนบ้าน ไม่ใช่โรงพยาบาล มีการดูแลใส่ใจทุกด้าน ผู้สูงอายุรู้สึกไม่โดดเดี่ยว มีสังคม ได้พูดเยอะขึ้น ลูกหลานแวะมาดูได้ และเมื่อร่างกายพร้อมก็กลับมาอยู่บ้านได้ด้วย
ผู้สูงอายุที่ต้องกายภาพบำบัด แบบไหนตอบโจทย์
บางท่านมีผู้สูงอายุที่ป่วย และต้องใช้การกายภาพบำบัด ยังเคลื่อนไหวหรือเดินเองไม่ได้ ถ้าจะบำบัดเองที่บ้าน อาจจะลำบากนิดหน่อย เพราะไม่มีเวลาให้ทำกิจกรรมกายภาพบำบัดมากนัก การทำแล้วเห็นผล จะต้องทำถึง 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ หากต้องพามาทำกายภาพบำบัดข้างนอก ก็ลำบาก ในการใช้อุปกรณ์ช่วยจำนวนมาก และต้องคอยระวังตอนเดินให้ดี แต่หากเลือกมาที่ Nursing Home จะตอบโจทย์กว่า เพราะประหยัดค่าอุปกรณ์และการเดินทาง มีกิจกรรมกายภาพบำบัดให้ทำอย่างต่อเนื่อง รักษาเห็นผลที่ชัดเจนและไวกว่า
ที่อยู่อาศัยเหมาะสมกับการดูแลผู้ป่วย
ผู้ป่วยสูงอายุที่อยู่ติดเตียง จะต้องได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะลักษณะสถานที่ในการดูแล จะต้องทำให้สิ่งแวดล้อมสะดวกกับการดูแลผู้ป่วยมากที่สุด เช่น ห้องน้ำสำหรับผู้สูงอายุ พื้นที่รถเข็น ซึ่งหากดูแลผู้ป่วยสูงอายุติดเตียงให้มีปัญหาเรื่องพื้นที่น้อยที่สุด ก็คงต้องเป็น Nursing Home หรือ โรงพยาบาล เพราะมีอุปกรณ์ พื้นที่ดูแบเหมาะสมกว่าการอยู่ที่บ้าน และหากใครต้องการดูแลที่บ้าน อาจจะต้องปรับพื้นที่ส่วนต่างๆ ให้ดูแลผู้สูงอายุได้ง่ายที่สุด
การรักษาพยาบาลและค่าใช้จ่าย
ถ้าจะพูดถึงการรักษาพยาบาล การดูแลผู้ป่วย ยกให้โรงพยาบาลดูแลดีมากเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาก็จะเป็นในส่วนของ Nursing Home และสุดท้ายคือการดูแลด้วยตัวเอง
แต่ในแง่ของราคานั้น ต้องบอกเลยว่า การรักษาพยาบาลผู้ป่วยสูงอายุในโรงพยาบาล จะมีราคาที่สูงกว่าทุกแบบ เพราะมีค่าสถานที่ ค่ารักษา ค่าดูแลตามมาตรฐานโรงพยาบาล หรือ หากคิดจะดูแลเองที่บ้าน อย่าคิดว่า จะไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพราะแค่คุณออกจากงาน หรือลางานมาดูแลเต็มตัว ก็ขาดรายได้ และยังมีค่ากิน ค่าอยู่ ค่าใช้จ่ายการรักษา หาคนดูแลเพิ่ม ซึ่งอาจจะเสียมากกว่าด้วยซ้ำ
ดังนั้น การรักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายที่พอจะลงตัวและคุ้มค่าที่สุด คงเป็นในส่วนของ Nursing Home เพราะชำระค่าบริการทีเดียวตามการประเมินเบื้องต้น เริ่มต้นที่ 40,000 บาท แต่ได้รับการดูแลเหมือนบ้าน และได้ทั้งมาตรฐานเดียวกันกับโรงพยาบาล
ทั้งหมดที่เขียนเปรียบเทียบในแต่ละส่วนนี้ เพื่อให้ผู้อ่าน ที่กำลังมองหาวิธีการดูแลผู้สูงอายุอย่างคุ้มค่า มีทั้งเวลาส่วนตัว ได้ไปทำอย่างอื่น และยังไม่ต้องกังวลเรื่องการดูแลใดๆ โดยสรุปได้ว่า หากใช้บริการของ Nursing Home ไม่ได้เป็นการทอดทิ้งผู้สูงอายุ แต่เป็นการพามาพักฟื้น และฟื้นฟูสภาพจิตใจและร่างกายให้ดีขึ้นกว่าอยู่บ้าน อีกทั้งผู้สูงอายุจะได้มีความสุขกับหลากหลายกิจกรรม ที่เข้าใจผู้สูงอายุเป็นพิเศษ ลูกหลานก็สามารถมาเยี่ยมได้ตลอด เมื่อถึงกำหนดที่ดีขึ้น ลูกหลานพร้อมดูแล ก็สามารถกลับไปอยู่บ้านด้วยกันได้ตามปกติ ซึ่งเป็นอะไรที่ตอบโจทย์ทุกครอบครัวมากๆ Nursing Home จึงเป็นตัวเลือกแห่งความห่วงใย ใส่ใจผู้สูงอายุที่ดีที่สุดในยุคนี้ก็ว่าได้…
ปรึกษาปัญหาผู้สูงอายุ สอบถามบริการ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย (เบอร์ 099-441-4690, 086-955-8889) หรือ ติดต่อเรา
30 ก.ย. 2562
30 ก.ย. 2562
30 ก.ย. 2562
11 ธ.ค. 2562