สรรพคุณ(ไม่)ลับของ….น้ำผึ้ง

สรรพคุณ(ไม่)ลับของ….น้ำผึ้ง

ถ้าพูดถึงหนึ่งในวัตถุดิบจากธรรมชาติที่ให้คุณประโยชน์ทั้งในแง่ความงาม และสุขภาพ ‘น้ำผึ้ง’ น่าจะเป็นหนึ่งในสิ่งที่ทุกคนน่าจะนึกถึงเป็นอันดับแรก ๆ  และยิ่งในปัจจุบันน้ำผึ้งสามารถหาได้ง่าย ใกล้ตัวมากยิ่งขึ้นการใช้สรรพคุณของน้ำผึ้งในทางยา และความสวยงามก็สามารถทำได้ง่ายขึ้น

น้ำผึ้ง นอกจากจะมีรสชาติหวาน สามารถเพิ่มความอร่อยให้กับอาหาร และเมนูขนม ตลอดจนเครื่องดื่มต่าง ๆ ได้ดีแล้ว ประโยชน์ของน้ำผึ้ง ยังมีอีกมากมายที่หลายคนอาจคาดไม่ถึงเลยทีเดียว เพราะในน้ำผึ้ง อุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งประโยชน์ของน้ำผึ้ง จะมีอะไรบ้าง และควรทานอย่างไรเพื่อให้ได้รับประโยชน์อย่างสูงสุด โดยไม่เกิดผลเสีย


สรรพคุณของน้ำผึ้ง

น้ำผึ้ง แก้ไอได้
น้ำผึ้งมีสรรพคุณเทียบเท่ายาปฏิชีวนะเบา ๆ สามารถกำจัดเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดอาการไอได้ โดยเฉพาะคนที่ไอเรื้อรังไม่ยอมหาย ลองกินน้ำผึ้ง 2 ช้อนชาแล้วดื่มน้ำอุ่นตาม อาการไอจะค่อย ๆ บรรเทาลง

น้ำผึ้ง แก้เจ็บคอก็ได้ด้วย
ในเมื่อน้ำผึ้งแก้ไอได้ อาการไวรัสลงคอจนทำให้รู้สึกเจ็บคอก็สามารถหายได้ด้วยน้ำผึ้งเช่นกัน ยิ่งหากจิบน้ำผึ้งผสมน้ำอุ่นที่บีบมะนาวผสมลงไปสักนิด จิบอยู่ไม่เท่าไรอาการเจ็บคอก็หายจ้อยเลยล่ะ

แก้ท้องผูก
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าในน้ำผึ้งแอบซ่อนโพรไบโอติกส์ แถมยังเป็นมิตรกับแบคทีเรียประเภทแลคโตบาซิลัส ดังนั้นเพียงจิบน้ำผึ้งผสมน้ำอุ่นก่อนเข้านอน ตื่นเช้ามารับรองว่าโล่งสบายท้องแน่ ๆ

น้ำผึ้ง รักษาโรคกระเพาะก็เด็ด
เนื่องจากน้ำผึ้งมีฤทธิ์สมานแผล จึงสามารถรักษาแผลในกระเพาะอาหารของผู้ป่วยโรคกระเพาะได้ โดยเฉพาะคนที่มีอาการโรคกระเพาะในระยะเริ่มต้น ควรกินน้ำผึ้งวันละ 1 ช้อนชาเป็นประจำ



รักษาเชื้อรา
ในน้ำผึ้งมีเอนไซม์ที่ผึ้งปล่อยออกมา ซึ่งเอนไซม์ที่ว่านี้ก็มีฤทธิ์คล้ายไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ จึงสามารถรักษาเชื้อราหรืออาการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดต่าง ๆ ได้นั่นเอง

แก้โรคนอนไม่หลับ
น้ำผึ้งที่ให้ความหวานกับร่างกาย ซึ่งไปกระตุ้นให้ร่างกายผลิตอินซูลินและหลั่งเซโรโทนิน ฮอร์โมนแห่งความสุขออกมาได้ จากนั้นเซโรโทนินจะเปลี่ยนตัวเองเป็นเมลาโทนิน ฮอร์โมนที่พาให้รู้สึกง่วงและรู้สึกอยากนอนหลับ โดยให้ผู้ที่นอนไม่หลับเป็นประจำกินน้ำผึ้ง 1 ช้อนชาก่อนเข้านอน 30 นาที 

บรรเทาอาการโรคภูมิแพ้
น้ำผึ้งมีอนุมูลละอองเกสรขนาดเล็กอยู่เยอะ ซึ่งเมื่อร่างกายเจอสิ่งนี้ก็จะกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานมากขึ้น ส่งผลให้ร่างกายหลั่งสารฮีสตามีนน้อยลง อาการของโรคภูมิแพ้อากาศจึงบรรเทาลงได้

เติมพลังให้ร่างกาย
น้ำผึ้งแค่เพียง 1 ช้อนโต๊ะก็มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตราว 17 กรัม ซึ่งก็เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่อุดมไปด้วยกลูโคสและฟรุกโตสจากธรรมชาติแท้ ๆ ดังนั้นร่างกายจึงสามารถดูดซึมพลังงานเหล่านี้เข้าเส้นเลือดได้อย่างรวดเร็ว บูสต์พลังให้หายจากอาการเพลียหรืออาการเหนื่อยล้าหลังออกกำลังหนัก ๆ ได้ชะงัด

บำรุงผิว
น้ำผึ้งมีคุณสมบัติในการบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง สดใส และดูเนียนสวยอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งอาจบำรุงด้วยการทาน หรือนำมาผสมกับสมุนไพรอื่น ๆ ทำเป็นครีมพอกหน้าก็ได้

ช่วยลดความอ้วน
หลายคนอาจคิดว่าน้ำผึ้งมีรสชาติหวาน ซึ่งจะทำให้อ้วนได้ แต่ความจริงแล้วความหวานของน้ำผึ้งไม่ได้มีส่วนทำให้เกิดความอ้วน แต่ตรงกันข้ามกับช่วยลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว เพราะความหวานของน้ำผึ้ง จะไปลดความอยากน้ำตาล หรือของหวานให้น้อยลง พร้อมช่วยกระตุ้นให้ระบบเผาผลาญสามารถสลายไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลลัพธ์ที่ได้จึงเป็นรูปร่างที่กระชับ และน้ำหนักที่ลดลงอย่างน่าพอใจนั่นเอง

ข้อห้ามในการรับประทานน้ำผึ้ง

ไม่ควรรับประทานน้ำผึ้งพร้อมกับกุยช่าย หรือเต้าหู้ เพราะจะทำให้เกิดอาการท้องเสียขึ้นได้
ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานน้ำผึ้งพร้อมกับหอมและกระเทียม เพราะจะทำให้คุณค่าในน้ำผึ้งลดน้อยลง
ห้ามรับประทานน้ำผึ้งต่อวันมากเกินกว่า 50 กรัม
ผู้ที่มีอาการท้องเสียหรือถ่ายเหลวควรหลีกเลี่ยง
ผู้ที่อาเจียนบ่อย หรืออยู่ในภาวะอาหารไม่ย่อยควรหลีกเลี่ยง
ผู้ที่ป่วยด้วยโรคเบาหวานอยู่ หรือเด็กที่อายุต่ำกว่า 1 ขวบ ห้ามรับประทานอย่างเด็ดขาด
การเลือกน้ำผึ้งมาดื่มจำเป็นต้องทราบถึงแหล่งที่มา เพราะอาจได้มาจากน้ำหวานของดอกไม้ที่มีพิษ


ข้อมูลอ้างอิง

https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/infographic/%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A-%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%9C%E0%B8%B6/

https://www.watsons.co.th/blog/th/latest-trend-th/8-%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%9C%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%87-%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B9%87

https://skm.ssru.ac.th/news/view/a641

http://fic.ifrpd.ku.ac.th/fic/index.php/2016-04-26-06-50-20/food-news-main-menu-3/fic-food-news-menu/583-food1-07-08-2018

https://www.sgethai.com/article/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%9C%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%87-%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B9%80%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%B0-%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AD/